ตันเกงฮุย 陳景輝
นายกสมาคมพาณิชย์จีนจังหวัดนครศรีธรรมราชคนแรก
เป็นลูกหลานของชาวจีนโพ้นทะเลที่เกิดในประเทศไทย
บรรพบุรุษมาจากฮกเกี้ยน ในวัยเด็กเรียนหนังสือที่ประเทศสิงคโปร์
จึงเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี ในวัยหนุ่มทำงานอยู่กับบริษัท มาลี
ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
คุณตันเกงฮุยเป็นผู้ที่เอาใจใส่อย่างยิ่งต่อผลประโยชน์ส่วนรวมของสังคม
กระตือรือร้นในการทำงาน มีความอ่อนโยนและมนุษย์สัมพันธ์ดี
ทำให้เป็นที่รักของชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหลาย
จึงได้รับการเลือกตั้งเป็ฯนายกสมาคมหลายสมัยตึดต่อกันถึง 10 ปี
ตลอดเวลาที่อยู่ในตำแน่งนายสมาคม
คุณตันเกงฮุย ได้ทุ่มเทให้กับภารกิจของสมาคมอย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่ามีภารกิจของส่วนตัวมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังได้พยายามเจียดเวลาให้กับงานสมาคมอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ
สนับสนุนและผลักดันงานชองสมาคม จนทำให้กิจการของสมาคมก้าวหน้าเป็นลำดับ
สร้างผลงานไว้เป็นอันมาก
ในช่วงเวลายาวนานที่คุณเกงฮุยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอยู่นั้น
ถึงแม้สมาคมจะยังไม่สามารถมีอาคารที่ทำการถาวรได้ก็ตาม
แต่กับกิจการของโรงเรียนจีนในสมัยนั้น คุณตันเกงฮุยได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
โดยในปี พ.ศ. 2473 ท่านได้ร่วมกับแกนนำชาวจีนในสมัยนั้น อาทิ คุณซุ่นถ่าย แซ่ฉั่ว
คุณจือเกง แซ่อู คุณกวางโตว แซ่ตัน ร่วมกันวางแผนเพื่อหาสถานที่และก่อสร้างอาคารให้กับโรงเรียนตุงฮั้ว ซึ่งขณะนั้นยังเช่าห้องแถวธรรมดาของชาวบ้านเป็นห้องเรียน
คุณตันเกงฮุยและบรรดาแกนนำได้ทุ่มเทกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากนานัปการที่จะหาทุนจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารโรงเรียนตุงฮั้ว
ซึ่งได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากพี่น้องชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหลายอย่างมาก
จนในที่สุดก็ได้ทำการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2475
ทำให้โรงเรียนตุงฮั้วได้มีสถานที่และอาคารเรียนที่เหมาะสม เป็นสถานศึกษาที่สงบ
ใช้เป็นที่อบรมสั่งสอนจริยธรรมอันดีงามแก่บุตรหลานของชาวจีนโพ้นทะเลในขณะนั้น
หลังจากดำเนินการก่อสร้างอาคารถาวรเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โรงเรียนตุงฮั้วก็ได้ย้ายเข้ามาทำการเรียนการสอนในอาคารแห่งใหม่ (คือบริเวณสมาคมพาณิชย์จีนนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน)
และด้วยความร่วมมือกันเป็นอย่างดีของบรรดาครูอาจารย์และคณะกรรมการโรงเรียนแต่ละสมัย
เป็นผลให้กิจการของรงเรียนได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างน่าชื่นชม
มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี
และได้เป็นรงเรียนที่มีบทบาทสำคัญที่ผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถออกมารับใช้สังคมจำนวนไม่น้อย
ประมาณปีพ.ศ.2483
โรงเรียนจีนในประเทศไทยต่างเผชิญหน้ากับพายุการเมือง
จนในที่สุดโรงเรียนจีนหลายแห่งต้องปิดตัวเองลงไปตามตามกัน
โรงเรียนตงฮั้วประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน ต้องปิดตัวเองไปในที่สุด
โรงเรียนตุงฮั้วนั้นถึงแม้สมาคมจะมิได้เข้ามาดำเนินการเองโดยตรง
แต่คณะกรรมการของโรงเรียนที่ดูแลกิจการอยู่นั้น
ส่วนใหญ่ก็ประกอบด้วยคณะกรรมการสมาคม ฉะนั้นสมาคมกับโรงเรียนจึงเปรียบเสมือนของสองสิ่งอยู่ในวงเดียวกัน
และต่างก็เป็นสมบัติของชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในเมืองนี้
ภายหลังจากที่โรงเรียนตุงฮั้วปิดการสอนแล้วนั้น
สมาคมก็เข้าไปใช้อาคารสถานที่โรงเรียนเป็นที่ทำการจวบจนปัจจุบัน
ภายใต้การนำและวางแผนดำเนินการโดยคุณตันเกงฮุยและคณะ จนในเวลาต่อมาอาคารสถานที่โรงเรียนตุงฮั้วก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสมาคมพาณิชย์จีนนครศรีธรรมราช
ที่มา :
หนังสือสถาปนาสมาคมพาณิชย์จีน นครศรีธรรมราช ปี 2537
>>>>>>>>>>>>>++++++++++++++ <<<<<<<<<<<<<<<<
1 ความคิดเห็น:
..เรื่องราวในอดีตที่สำคัญๆหากปล่อยเลือนหายไปตามกาลเวลาย่อมสูญเปล่าหากมีการบันทึกบอกเล่าถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ตระหนักถึงเรื่องราวต่างๆในอดีตย่อมยังคุณประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของคนรุ่นหลังต่อไป ขอเป็นกำลังใจ
Lung Kai
แสดงความคิดเห็น