วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

นายกสมาคมพาณิชย์จีนคนแรก






ตัเกงฮุย 陳景輝

นายกสมาคมพาณิชย์จีนจังหวัดนครศรีธรรมราชคนแรก





 เป็นลูกหลานของชาวจีนโพ้นทะเลที่เกิดในประเทศไทย บรรพบุรุษมาจากฮกเกี้ยน ในวัยเด็กเรียนหนังสือที่ประเทศสิงคโปร์ จึงเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี ในวัยหนุ่มทำงานอยู่กับบริษัท มาลี ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
                คุณตันเกงฮุยเป็นผู้ที่เอาใจใส่อย่างยิ่งต่อผลประโยชน์ส่วนรวมของสังคม กระตือรือร้นในการทำงาน  มีความอ่อนโยนและมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำให้เป็นที่รักของชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหลาย จึงได้รับการเลือกตั้งเป็ฯนายกสมาคมหลายสมัยตึดต่อกันถึง 10 ปี
                ตลอดเวลาที่อยู่ในตำแน่งนายสมาคม คุณตันเกงฮุย ได้ทุ่มเทให้กับภารกิจของสมาคมอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่ามีภารกิจของส่วนตัวมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังได้พยายามเจียดเวลาให้กับงานสมาคมอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ สนับสนุนและผลักดันงานชองสมาคม จนทำให้กิจการของสมาคมก้าวหน้าเป็นลำดับ สร้างผลงานไว้เป็นอันมาก

                ในช่วงเวลายาวนานที่คุณเกงฮุยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอยู่นั้น ถึงแม้สมาคมจะยังไม่สามารถมีอาคารที่ทำการถาวรได้ก็ตาม แต่กับกิจการของโรงเรียนจีนในสมัยนั้น คุณตันเกงฮุยได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยในปี พ.ศ. 2473 ท่านได้ร่วมกับแกนนำชาวจีนในสมัยนั้น อาทิ คุณซุ่นถ่าย แซ่ฉั่ว คุณจือเกง แซ่อู คุณกวางโตว แซ่ตัน ร่วมกันวางแผนเพื่อหาสถานที่และก่อสร้างอาคารให้กับโรงเรียนตุงฮั้ว ซึ่งขณะนั้นยังเช่าห้องแถวธรรมดาของชาวบ้านเป็นห้องเรียน คุณตันเกงฮุยและบรรดาแกนนำได้ทุ่มเทกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากนานัปการที่จะหาทุนจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารโรงเรียนตุงฮั้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากพี่น้องชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหลายอย่างมาก จนในที่สุดก็ได้ทำการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2475 ทำให้โรงเรียนตุงฮั้วได้มีสถานที่และอาคารเรียนที่เหมาะสม เป็นสถานศึกษาที่สงบ ใช้เป็นที่อบรมสั่งสอนจริยธรรมอันดีงามแก่บุตรหลานของชาวจีนโพ้นทะเลในขณะนั้น
                หลังจากดำเนินการก่อสร้างอาคารถาวรเสร็จเรียบร้อยแล้ว โรงเรียนตุงฮั้วก็ได้ย้ายเข้ามาทำการเรียนการสอนในอาคารแห่งใหม่ (คือบริเวณสมาคมพาณิชย์จีนนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน) และด้วยความร่วมมือกันเป็นอย่างดีของบรรดาครูอาจารย์และคณะกรรมการโรงเรียนแต่ละสมัย เป็นผลให้กิจการของรงเรียนได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างน่าชื่นชม มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี และได้เป็นรงเรียนที่มีบทบาทสำคัญที่ผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถออกมารับใช้สังคมจำนวนไม่น้อย

                ประมาณปีพ.ศ.2483 โรงเรียนจีนในประเทศไทยต่างเผชิญหน้ากับพายุการเมือง จนในที่สุดโรงเรียนจีนหลายแห่งต้องปิดตัวเองลงไปตามตามกัน โรงเรียนตงฮั้วประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน ต้องปิดตัวเองไปในที่สุด
                โรงเรียนตุงฮั้วนั้นถึงแม้สมาคมจะมิได้เข้ามาดำเนินการเองโดยตรง แต่คณะกรรมการของโรงเรียนที่ดูแลกิจการอยู่นั้น ส่วนใหญ่ก็ประกอบด้วยคณะกรรมการสมาคม ฉะนั้นสมาคมกับโรงเรียนจึงเปรียบเสมือนของสองสิ่งอยู่ในวงเดียวกัน และต่างก็เป็นสมบัติของชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในเมืองนี้
                ภายหลังจากที่โรงเรียนตุงฮั้วปิดการสอนแล้วนั้น สมาคมก็เข้าไปใช้อาคารสถานที่โรงเรียนเป็นที่ทำการจวบจนปัจจุบัน ภายใต้การนำและวางแผนดำเนินการโดยคุณตันเกงฮุยและคณะ จนในเวลาต่อมาอาคารสถานที่โรงเรียนตุงฮั้วก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสมาคมพาณิชย์จีนนครศรีธรรมราช



ที่มา : หนังสือสถาปนาสมาคมพาณิชย์จีน นครศรีธรรมราช ปี  2537
>>>>>>>>>>>>>++++++++++++++ <<<<<<<<<<<<<<<<


1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

..เรื่องราวในอดีตที่สำคัญๆหากปล่อยเลือนหายไปตามกาลเวลาย่อมสูญเปล่าหากมีการบันทึกบอกเล่าถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ตระหนักถึงเรื่องราวต่างๆในอดีตย่อมยังคุณประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของคนรุ่นหลังต่อไป ขอเป็นกำลังใจ
Lung Kai