ศาลพระเสื้อเมือง พ.ศ. ๒๕๕๗ |
พระเสื้อเมืองทรงเมือง เป็นคติความเชื่อดั้งเดิม โดยมีรูปเคารพ ๒ องค์ ประดิษฐานในศาลเจ้าพระเสื้อเมืองแห่งนี้มาตั้งแต่ สมัยอยุธยา โดยมีการพบโบราณวัตถุเป็นหินสลักที่เหลือเพียงเท้าสิงห์รูปเหมือนอยู่ ๑ คู่ หินบดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ ฟุต ใช้สำหรับบดแป้ง ทำให้สันนิษฐานได้ว่า เดิมทีน่าเป็นศาสนสถานของพราหมณ์มาก่อน
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาภานุพันธุ์วงศ์วรเดช ได้ทรงบันทึกในหนังสือ"ชีวิวัฒน์ บันทึกการเดินทางเสด็จประพาสหัวเมืองภาคใต้" เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๗ (สมัยรัชกาลที่ ๕)มีตอนที่กล่าวถึงเมืองนครศรีธรรมราชตอนหนึ่งว่า
ศาลเสื้อเมือง本頭公ยุคแรก |
"...ข้างฟากถนนด้านตะวันตกถัดบ้านพระยานคร(ศาลากลางจังหวัดในปัจจุบัน) ไปประมาณ ๑๐ เส้น มีหมู่ตลาดอีกแห่งหนึ่ง เป็นตลาดเพิงเป็นหลังๆ ขายผ้า เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้สอยต่างๆ ประมาณ ๒๑ - ๒๒ ร้าน ที่นั้นมีโรงศาลเจ้าเสื้อเมืองหลังหนึ่ง มุงจากฝาลูกกรงไม้ไผ่เหมือนโรงโป ในนั้นมีกุฏิอิฐ ๒ หน้า ข้างตะวันตกมีเทวรูปศิลาปิดทองยืนจมดินสูงสักศอกเศษ(๑ศอก = ๕๐ ซม.)หน้าข้างตะวันออกมีเทวรูปศิลาปิดทองนั่งชันเข่าสูงสักศอกเศษหนึ่ง.."
เห็นได้ว่าในบันทึกนี้ไม่ได้กล่าวถึงรูปเคารพอื่นเลย มีเพียงพระเสื้อเมืองทรงเมืองที่มีลักษณะศิลปท้องถิ่นที่รับคติจากศาสนาพราหมณ์ และยงคงประดิษฐานอยู่ถึงปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๔๗๖ หนังสือ "สาสน์สมเด็จ" เล่ม ๑๗ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงมีลายพระหัตถ์ถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ความตอนหนึ่งว่า
จำลองภาพตามหลักฐานเอกสาร |
"...ให้นำย้อนหลังไปดูศาลเจ้าพระเสื้อเมืองเป็นโรงใหญ่ กำมะลอฝาขัดแตะ กลางโรงมีกุฏิก่ออย่างจีน ดุจกุฏินกขุนทอง หน้ากุฏิมีโต๊ะพระเครื่องบูชาอย่างจีนตั้งในกุฏิเป็นพระพุทธรูปเก่า หลังกุฏิมีรูปปั้นเป็นเทวดานั่งวิศวกรรมแต่มีนมดูจะเป็นนาง หลังโต๊ะมีโต๊ะเครื่องบูชาอย่างจีนตั้งอีกแห่งหนึ่ง หลังโต๊ะแขวนรูปกวนอู เป็นที่น่าสังเกตได้ว่าศาลนี้เคยมีจีนมาปกครองแต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ผู้ว่าราชการให้ผูใหญ่บ้านที่อยู่ใกล้มาดูแล..."
แสดงว่ามีการยกเทวรูปเคารพจากพื้นดิน ขึ้นตั้งบนโต๊ะบูชาแบบจีนในช่วงเวลาระหว่าง พ.ศ. ๒๔๒๗ ถึง พ.ศ. ๒๔๗๖ และมีชาวจีนเข้ามามีบทบาทในศาลพระเสื้อเมืองโดยมีการเพิ่มเทพเจ้าจีนคือ กวนอู เป็นรูปเคารพข้ามาด้วย และมีการตกแต่งสถานที่ด้วยศิลปแบบจีนในช่วงเวลานี้
ภาพจากเอกสารของเทศบาลเมือง |
ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เกิดวาตภัยครั้งใหญ่ ศาลเจ้าเดิมถูกพายุพัดจนเสียหายทั้งหลัง ชาวจีนในเมืองนครศรีธรรมราชจึงได้ร่วมกันสร้างศาลขึ้นใหม่เป็นอาคารคอนครีต หันหน้าไปทางทิศเหนือ
จัดให้มีการสมโภชเมื่อ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๘
ยุคนี้จึงได้มีการนำเทพจีน 本頭公 คือ ปึงเถ่ากงและปึกเถ่าม่า(พระเสื้อเมืองพระทรงเมืองที่จีนรับอิทธิพลความเชื่อจากอินเดีย) เข้ามาประดิษฐานร่วมกับของรูปเคารพเดิม
การประดิษฐานรูปเคารพในศาลพระเสื้อเมืองยุคนี้ |
ปีพ.ศ.๒๔๗๙ ศาลพระเสื้อเมือง 本頭公 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากร
ปีพ.ศ.๒๕๕๒ คณะกรรมการศาลเจ้าพระเสื้อเมืองเห็นว่าศาลชำรุดทรุดโทรมและคับแคบ เห็นควรสร้างเป็นอาคารหลังใหม่และได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ตามหนังสืออนุญาตลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
ศาลเสื้อเมืองปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๕๗ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น