วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เทวาภิเษกเทพกวนอู ๕๖



วัน 24 (廿四) เดือน 6 (六月) ปีมะเส็ง(巳)
ตรงกับวันพุธที่ 31  กรกฎาคม 2556
 เป็นวันคล้ายวันเทวาภิเษกเทพเจ้ากวนอู







วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พระสังกัจจายน์ : ศาลเจ้ากวนอู

พระสังกัจจายน์ หรือ พระสังกัจจายนะ ที่ ชาวพุทธทั่วไปมักเรียกเพี้ยนไปเป็น พระสังข์กระจาย นั้น แท้ที่จริงก็คือ พระมหาสังกัจจายนเถระ หรือ พระมหากัจจายนะ เถระ ซึ่งเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในครั้งพุทธกาล

พระสังกัจจายน์ ที่เราเห็นกันทั่วไปในปัจจุบัน เป็นภาพหรือรูปปั้นที่อ้วน พุงพลุ้ย ใบหน้าอิ่มเอิบ ยิ้มร่าอย่างมีเมตตา เป็นการแสดงถึงการมีโชค มีลาภ มีเมตตามหานิยมแก่ผู้สักการะบูชา แต่ก่อนที่จะมามีรูปลักษณ์อย่างนี้

พระสังกัจจายน์ เป็นผู้มีรูปร่างงดงาม ผิวพรรณผุดผ่อง ดุจทองคำ จนเป็นที่ต้องตาต้องใจแก่คนทั่วไป ไม่ว่าชาย หรือหญิง เรียกว่าใคร ๆ ก็อยากเห็น อยากพบ อยากทำบุญด้วย เป็นเมตตามหานิยมที่เกิดขึ้นจากตัวท่านเอง จนสตรีเพศทั้งหลายต่างก็พากันหลงใหล ไปอยู่ที่ไหนก็มีสตรีหลายคนมาคอยเฝ้าดู เฝ้าชมกันอย่างไม่ลุกไปไหน กระทั่งเป็นการขัดขวาง การปฏิบัติสมณธรรม ท่านจึงไปทูลขออนุญาตจากพระพุทธองค์ เพื่อขอแปลงกาย ไม่ให้หล่อเหลางดงาม ซึ่งก็ทรงมีพุทธอนุญาตให้เป็นไปตามที่ขอ


พระ สังกัจจายน์ จึงใช้ฤทธิ์อภิญญาของท่านแปลงกายให้อ้วนพุงพลุ้ย จนถึงต้องเอามืออุ้มไว้ เพราะมีขนาดใหญ่มาก แต่ใบหน้าก็ยังอวบอิ่มยิ้มร่าด้วยเมตตาบารมีแห่งความมีโชค มีลาภ จึงหมดปัญหาไป สำหรับการหลงใหลในรูปร่างหน้าตา

แต่ผู้คนก็ยังติดใจในเมตตาบารมีของท่านจึงยังทำบุญกับท่านอยู่เสมอ เปรียบได้กับ พระสีวลี ซึ่งเป็นพระอรหันต์แห่งโชคลาภ

"ผู้ใดบูชาพระสังกัจจายน์ ย่อมเป็นมหามงคลอุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล"



พิธีพุทธาภิเษกพระสังกัจจายน์ โดยพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร(ท่านเจ้าคุณเย็นเต็ก) เจ้าคณะใหญ่สงฆ์จีนนิกาย เจ้าอาวาส วัดโพธิ์แมนคุณาราม เป็นองค์ประธานเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๒

จัดสร้างถวายศาลเจ้ากวนอู นครศรีธรรมราช นำโดยคุณประสิทธิ์  เจนคุ้มวงศ์ประธานชมรมกินเจชาวบางรัก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๙ เดือน ๙ รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙


ที่มา : คณะกรรมการศาลเจ้ากวนอู

++++++++++++++++++




วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หงส์มณีการ : ปาลิกา จึงไพศาล





ปาลิกา รู้รักษา






คุ้มภัย



จึง กอปรกิจการใด






โชติช่วง






ไพ บูลย์ยิ่งไสว






มณีแก้ว

แม่นา



ศาล ปู่ตา" ซีก้วง "






ล่วงรู้

คู่นคร










**********************
ปาลิกา  จึงไพศาล

การศึกษา

- อนุบาลหนึ่งถึงมัธยมสาม  โรงเรียนธิดานุเคราะห์หาดใหญ่  
- มัธยมสี่ถึงมัธยมหก  โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย     
- ปริญญาตรี  บริหารธุรกิจ  สาขาการบริหารงานบุคคล  เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตหาดใหญ่  ปี 2531     
- ปริญญาโท  บริหารธุรกิจมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง  สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ  จังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2554     
- ประกาศนียบัตร  "นักอัญมณีศาสตร์"  จากสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งเอเชีย (A.I.G.S.)  ปี 2535     
- ประกาศนียบัตร จากศูนย์ส่งเสริมเพชร เดอร์ เบียร์ส ในหัวข้อ  "การตลาดเกี่ยวกับเพชรและทักษะการขาย"  ปี  2536     
- Designer Course  หลักสูตรการออกแบบเครื่องประดับอัญมณี  จากสถาบันกรุงเทพอัญมณีศิลป์  ปี 2537
 - วุฒิบัตรหลักสูตร "ปฏิบัติการประเมินคุณภาพเพชร  ( Diamond  Grading )"  จากสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา  ( GIA )  ปี  2549     
- วุฒิบัตรหลักสูตร  "ความรู้เกี่ยวกับทองคำและการวิเคราะห์ทองคำ"    จากสถาบันอัญมณีและเครื่องประดับ  (GJI)  ปี  2550     
- ประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านเครื่องประดับ (Accredited Jewelry Professional Diploma ) จาก GIA ปี 2551

สมาชิกภาพทางสังคม












- ชมรมร้านทอง  จังหวัดนครศรีธรรมราช     
- หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช    
- สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช         
- สโมสร ไลออนส์ ศรีนคร     
- สมาคมไหหลำ นครศรีธรรมราช
















ปัจจุบันเป็นจ้าของกิจการและผู้บริหาร

          ห้างหุ้นส่วนจำกัด “เพชรซีกวง” ท่าวัง – โรบินสัน – โรงแรมทวินโลตัส - ห้างสหไทยทุ่งสง
          ห้างหุ้นส่วนจำกัด “ทองซีกวง” ท่าม้า – หัวอิฐ - คูขวาง -คลาดเสาร์อาทิตย์ถนนพัฒนาการ
          ห้างหุ้นส่วนจำกัด  “โรงงานน้ำปลาปากนคร”

สมรสกับ  คุณโจ  มีบุตรธิดา  4  คน



































































วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วัชระ

วัชระ


วัชระ
เทพอาวุธขจัดสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล

วัชระ เป็นเครื่องรางจากคติความเชื่อสายวัชรญานแบบธิเบต

มีลักษณะคล้ายตรีศูล ผิดกันตรงที่วัชระนั้นจะมีปลายแหลมดุจกลีบดอกไม้
เป็นมุมแยู่สี่มุมและจะมีปลายแหลมที่เสมือนแกนกลางอยู่ตรงกลางอีกหนึ่ง
วัชระจะมีสองปลาย การจับวัชระนั้นจะใช้ปลายนิ้วจับตรงข้อกลางของวัชระ

ในตำนานของพระพุทธวัชรญานและทางฮินดูกล่าวตรงกันว่า
วัชระนั้นเป็นเทพอาวุธที่มีอานุภาพร้ายกาจของพระอินทร์
ซึ่งถือกันว่าเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์หนึ่ง และทำหน้าที่เป็นธรรมบาลหรือผู้ดูแลพระพุทธศาสนาด้วย
โดยวัชระจัดเป็นหนึ่งในห้าของเทพอาวุธที่ทรงอานุภาพสูงสุดที่สามารถทำลายสรพพสิ่งได้อย่างเฉียบพลันทันที

ในพิธีกรรมของวัชรญาน วัชระจึงเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง
ทั้งวัชระเองยังถูกนำมาเป็นเตรื่องรางของขลังพกติดตัว
เพื่อป้องกันกันสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล และนำแสงสว่าง
คือความโชคดีมาสู่ตัวผู้นั้นด้วย

การใช้วัชระเพื่อประโยชน์อันสูงสุดนั้น
ให้ถือวัชระพร้อมกับการกำหนดเปล่งคำภาวนาในใจว่า

"โอมมณี ปัทเมหุม"

ซึ่งเป็นพระคาถาหัวใจพระอวโลกิเตศวร
พร้อมทั้งอธิษฐานจืตขอพรต่อท่าน เพื่อรับพลังอำนาจแห่งพระโพธิสัตว์นั้น
ก็จักส่งผลสำเร็จดังใจมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ

ที่มา : คณะกรรมการศาลเจ้ากวนอู นครศรีะรรมราช

>>>>>>>>>>%%%%%%%%%<<<<<<<<<<<

ดูข้อมูล วัชระเพิ่ม